วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ “อุ้ม ตำแหน่ง Sales Executive” ของ TTF ที่ได้ย้ายสายการทำงานมาเป็น Sales แต่ไม่เคยมีประสบการณ์เป็น Sales มาก่อน แล้วอะไรที่ทำให้อุ้มตัดสินใจย้ายมาทำตำแหน่งนี้ มากไปกว่านั้นสิ่งที่ได้เรียนรู้และทักษะที่ได้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้น จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

อัจฉรา หมันหมิ่น (อุ้ม) Sales Executive

แนะนำตัว

“สวัสดีค่ะ ชื่ออุ้มนะคะ อัจฉรา หมันหมิ่น ตำแหน่ง Sales Executive ค่ะ”

สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจมาสมัครงานที่ TTF

“ก่อนจะสมัครงานก็ต้องค้นหาข้อมูลก่อนว่าบริษัทนี้ทำเกี่ยวกับอะไร เราได้ไปค้นหาข้อมูลใน Page Facebook ของ TTF เห็นรูปเซอร์ไพรส์วันเกิดดูสนุกกันมาก แล้วก็เห็นรูปอื่นๆ เพื่อนที่ทำงานจะเป็นรุ่นราวคราวเดียวกับเรา เลยรู้สึกว่าบริษัทนี้เปิดโอกาสให้กับเด็กจบใหม่เลยทำให้อยากเข้ามาสมัครที่นี่”

ตำแหน่งแรกที่ได้ทำใน TTF

“เป็น Receptionist and Administrator Support ไม่ตรงกับสายที่เรียนมาเลยฮ่าๆ”

ตอนนั้นทำงานเป็นอย่างไรบ้าง

“ตอนนั้นพี่ที่ทำงานด้วยกันสนุกมาก พี่ซะห์ พี่แหม่ม พี่สิงห์เป็นกันเอง คุยเล่นได้เลย มันทำให้เราสนุกกับการทำงานมากขึ้น แต่ถ้าถึงเวลาทำงานก็จะจริงจัง สอนงานเราทุกอย่างเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง ตอนงานสถาปนิกเรามีโอกาสได้ช่วยซัพพอร์ต Sales และฝ่ายอื่นๆ อยู่ที่เคาน์เตอร์บริการลูกค้า คอยตอบคำถามที่เราพอจะรู้ ตอนนั้นถึงจะเครียดแต่ก็มีพี่ๆ คอยช่วยซัพพอร์ต สร้างบรรยากาศคุย หยอกไม่ให้ตึงเครียดเกินไป”

 

แล้วอะไรทำให้ตัดสินใจมาเป็น Sales

“จากที่ได้มีโอกาสช่วยซัพพอร์ตตอนงานสถาปนิก เลยทำให้อยากเป็น Sales มันเป็นการทำงานที่เหนื่อยแต่สนุกมาก”

TTF ให้โอกาสอุ้มในการมาเป็น Sales

“ใช่ บริษัทได้ให้โอกาสเราถึงแม้เราจะไม่มีประสบการณ์เป็น Sales เลย ตอนย้ายมาทำแรกๆ เราตื่นเต้นมาก”

เริ่มต้นการเป็น Sales ต้องทำอะไรบ้าง

“เราต้องเริ่มนับ 1 ใหม่หมดเลย แต่คุณแมน (รองกรรมการผู้จัดการ) จะปูพื้นฐานให้ เริ่มอธิบายตั้งแต่แรกเลยว่าในงานสถาปนิกลูกค้ามีโปรไฟล์อะไรบ้าง อย่างเราดูแลลูกค้าโปรไฟล์เกี่ยวกับหลังคา ซึ่งหลังคามีหลายประเภทแยกย่อย เราที่ไม่รู้อะไรแบบนี้เลยก็มีคุณแมนคอยช่วยอธิบายรายละเอียดแบบเจาะลึกให้ แล้วก็คอยแนะนำว่าส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาร่วมจัดแสดงสินค้าเป็นลูกค้ากลุ่มไหน ต้องคุยอย่างไรบ้าง”

อุ้มทำงานกับคุณแมนเป็นอย่างไรบ้าง

“แรกๆ เกร็ง ไม่กล้าคุย แต่คุณแมนให้คำปรึกษาเยอะ ช่วยเยอะเหมือนกัน หาลูกค้าให้เรา ตอนนี้มีอะไรก็ปรึกษาคุณแมนได้หมดเลย ให้คำปรึกษาโดยที่คุณแมนไม่ได้ถือตัว พูดคุยกันได้ปกติเหมือนพี่อีกคนในทีม”

มีทริคหรือเทคนิคในการพูดกับลูกค้าไหม

“ส่วนตัวคิดว่าต้องมีความชัดเจนเรื่องข้อมูล พูดจาฉะฉาน ใส่ใจรายละเอียด ก่อนนำเสนอต้องมีการเตรียมพร้อม เรียบเรียงข้อมูลไปตามสเตปจะทำให้ลูกค้าเข้าใจง่าย เพราะบางทีเป็นลูกค้าที่ไม่เคยเข้าร่วมงานมาก่อน เค้าจะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง”

 

 

พี่ๆ เพื่อนๆ ในทีมมีการให้คำปรึกษาอย่างไรบ้าง

“พี่ๆ เพื่อนๆ ในทีมขายดีมาก แนะนำเราทุกเรื่องเลย ก็มีพี่อ้อน บีม พี่กิ๊ก และมีพี่ทีมอื่นด้วย อย่างทีม Operation ทีม Coordinator ก็แนะนำเป็นขั้นตอนเพราะทุกฝ่ายทำงานด้วยกันหมดเลย นอกจากนี้ยังมีคุณฝ้าย (รองกรรมการผู้จัดการ) ที่คอยถามเราตลอดเลยว่าทำงานเป็นอย่างไรบ้าง โอเคไหม ตรงนี้เรารู้เลยว่าทุกคนเป็นห่วงเราจริงๆ”

หลังจากที่ได้รับโอกาสมาทำหน้าที่ Sales คิดว่าตัวเองมีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนามากขึ้นหรือไม่

“เรารู้ตัวเลยว่าเรามีการพัฒนาขึ้น เรื่องการสื่อสารแล้วก็เหมือนเราพอจะอ่านใจลูกค้าออก แรกๆ เราจะไม่รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร แต่พอได้คุยไปเรื่อยๆ เราจะเริ่มรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร แล้วก็ได้มีโอกาสเข้าสังคมมากขึ้น บางบริษัทมีผู้ประสานงาน 2-3 ท่าน ทำให้ได้พูดคุยมากขึ้น”

สิ่งที่คิดว่าอยากพัฒนาเพิ่มขึ้น

“อยากเพิ่มเกี่ยวกับภาษา ด้วยงานของเราที่มี Exhibitor ต่างชาติมากถึง 20% ก็รู้สึกว่าการใช้ภาษาในการพูดคุยมันสำคัญเลย”

 

ไหนๆ ก็พูดถึงงานสถาปนิกแล้ว อุ้มคิดว่างานสถาปนิก’67 จะได้ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง

“ถ้าอิงจากงานสถาปนิก’66 ที่ผ่านมา คิดว่าผลตอบลัพธ์ดีขึ้น เพราะทั้ง Exhibitor และ Visitor เพิ่มเยอะมาก และสถาปนิก’67 พื้นที่ถูกจองเร็วขึ้น ตอนนี้จองเกินครึ่งแล้ว”

อุ้มเป็น Sales คนแรกที่ได้สัญญาจองพื้นที่ของงานสถาปนิก’67 จากลูกค้า ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร

“รู้สึกตกใจว่าทำได้ไง เพราะตอนสัญญาเข้าเราเพิ่งย้ายไปทำ Sales ได้แค่ 20 กว่าวันเอง”

แล้วได้ Feedback จากหัวหน้าหรือทีมอย่างไร

“ได้รางวัล “Architect’24 First Blood” จากคุณแมน คุณฝ้าย เป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน เอ็นจอยเลย หลังจากวันนั้นก็กินชานมกระจายฮ่าๆ”

เครียดกับการทำงานไหม แล้วจัดการอย่างไร

“ถามว่าเครียดไหม ก็มีเครียดเพราะ Sales ก็ต้องทำยอดอยู่แล้ว มีการติดต่อพูดคุยกับลูกค้า ไม่ว่าจะทาง Line, E-mail หรือทางโทรศัพท์ ถ้าช่วงไหนที่รู้สึกว่ามันเครียดเกินไป เราก็จะมีฟังเพลงบ้างสัก 1 เพลง หรืออาจจะหันหน้ามาคุยกันหน่อย ให้ได้ผ่อนคลายดีกว่าปล่อยให้จมอยู่กับความเครียดแล้วทำงานต่อ”